วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

5 กฎทอง สำหรับ ธุรกิจเครือข่าย ที่ดี !

เราทุกคนรู้ว่ามีคนจำนวนมาก ไม่ได้ทำธุรกิจเครือข่าย มันไม่ได้เพราะธุรกิจเครือข่ายนั้นไม่ดี บางทีพวกเขาไม่ได้เลือกโอกาสที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะพวกเขาไม่ทราบวิธีการทำหรือหลักการของธุรกิจเครือข่ายอย่างแท้จริง ถึงทำก็ทำแบบผิดๆถูกๆ หากคุณรู้จักธุรกิจที่มี กฎ ตาม 10 ข้อที่ผมกำลังจะพูดนี้ ขอให้คุณเชื่อได้ว่า มันคือ ธุรกิจเครือข่ายที่ดี 10 กฎทองของธุรกิจเครือข่าย มีดังนี้

1. วัตถุประสงค์  

นี้เป็นครั้งแรกเพราะมันเป็นพื้นฐาน นี่คือ"ทำไม"คุณกำลังทำธุรกิจ "ทำไม"จะแตกต่างกันสำหรับทุกคนดังนั้นเมื่อฉันขอให้ผู้ร่วมธุรกิจที่เป็นไปได้ของฉัน (อ่านกลุ่มเป้าหมาย) ว่าทำไมพวกเขาต้องการทำธุรกิจนี้และพวกเขาตอบผมว่าพวกเขาต้องการ"เงินได้มากขึ้น"ฉันรู้ว่าฉันมีการคิดเล็กๆน้อยๆ "ทำไม"จะต้องมีอารมณ์ไม่ตรรกะ ที่ดี"ทำไม"จะว่าคนคนนี้คือ"กลัวว่าเธอจะไม่ได้มากพอที่จะเกษียณและจะผ่อนบ้านของเธอ"หรือว่าคนอื่น ๆ "เป็นที่น่าเศร้าเพราะเธอไม่สามารถใช้เวลากับเด็กของเธอ, เพื่อเธอจะ ชอบที่จะทำงานจากที่บ้านใช้เวลากับเด็ก ๆ ของเธอ" ดูที่นี่ที่"กลัว"และอารมณ์"เศร้า" ถ้ามีคนไม่ได้มีอารมณ์ว่า"ทำไม"เขาหรือเธอจะออกจากที่ความผิดหวังครั้งแรกนี้

2. แผน


นี่คือ"วิธีการ" คุณมีความแข็งแรง"ทำไม"และขณะนี้คุณต้องค้นหาวิธีการที่คุณจะทำธุรกิจนี้ คุณต้องวางแผนการดำเนินการ วิธีที่ดีที่จะทำมันก็จะไปทำงานกับ อัพไลน์ ของเราเพื่อให้พวกเขาสามารถช่วยคุณหาแผนการตลาดที่ดีที่สุดสำหรับคุณที่จะใช้ เมื่อคุณมีแผนเขียนมันลงนี้จะทำให้มัน"จริง"

3. ความเชื่อ


ทุกครั้งคุณต้องเชื่อว่า ต้องเชื่อว่าคุณอยู่ในอุตสาหกรรมที่เหมาะสมใน บริษัท ที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและการที่คุณมีทีมงานที่เหมาะสมที่จะสนับ สนุนคุณ ที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องเชื่อมั่นในตัวเอง! มีหลายคนที่มีความฝันไม่มีความหวังที่จะพยายามที่จะนำคุณลงไม่เป็น คุณต้องเก็บศรัทธา คนที่ประสบความสำเร็จเชื่อในสิ่งที่เขาทำ

4. เป้าหมาย

ผมชอบคำกล่าวที่ว่า"เป้าหมายคือความฝันที่มีวันหมดอายุเป็น" นี้จะสิ้นผลของแผนของคุณ ชอบวางแผนที่คุณต้องเขียนมันลงและให้ตัวเลข : วิธีการลูกค้าจำนวนมากที่คุณต้องการเดือนนี้ ในสัปดาห์นี้? ผู้ร่วมธุรกิจใหม่อาจได้อย่างไร? เมื่อใดที่คุณต้องการเข้าถึงในระดับต่อไปในองค์กรของคุณ? คุณต้องรู้ว่า"เมื่อ"และ"วิธีการหลาย"หรือ"เท่าไหร่" แล้วที่คุณพัฒนาธุรกิจของคุณเปรียบเทียบกับความคืบหน้าของแผนของคุณและปรับการดำเนินการประจำวันของคุณเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของคุณ





5. ความคิดในแง่ดี หรือคิด บวก นั่นเอง

คุณจะพบคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกว่าของคุณ คุณต้องเคารพพวกเขา แต่คุณไม่ได้ต้องการให้พวกเขาส่งผลกระทบต่อความเชื่อของคุณ คุณจะต้องอยู่ในแง่ดีเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังทำทุกครั้ง คุณอาจจะมีวันที่เลวร้ายที่คุณไม่ได้พูดคุยกับคนมากพอที่คุณไม่ได้สปอนเซอร์ใครและก็ โอเค คุณจะต้องอยู่ในเชิงบวกและการทำงานอย่างหนักที่จะทำขึ้นในสัปดาห์หลังจากนัั้้น



บทความต่อไปผมจะมาบอก อีก 5 กฎทอง ของธุรกิจเครือข่าย อย่าลืมติดตามนะครับ เป็นความรู้ที่ดีจริงๆ 


 

วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554

การทำ ธุรกิจเครือข่าย ? ธุรกิจเครือข่ายดีตรงไหน ? ธุรกิจดีอย่างไร ? ธุรกิจเครือข่ายสามารถสร้างรายได้ ได้จริงหรือ ?


หลายๆคนคงไม่เข้าใจว่า ธุรกิจเครือข่าย คืออะไร ผมก็จะตอบให้ครับ


คนส่วนใหญ่รู้จัก ธุรกิจเครือข่าย ในลักษณะที่มี ผู้ขาย และ ผู้ซื้อ มีผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ เพื่อสร้างผลกำไรแก่ตนเอง หรือ บริษัท หรือองค์กรใดๆก็ตามที่ก่อตั้งขึ้นมา


แต่พอพูดถึงธุรกิจเครือข่าย กลับมีผู้ที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจนี้จริงๆจังๆ อยู่น้อยมาก ส่วนใหญ่บ้างก็เข้าใจว่าเป็นธุรกิจจำพวกขายของทั่วไป แต่ตั้งชื่อให้เก๋ไก๋ หรือเป็นธุรกิจขายตรงแบบเคาะประตูบ้าน หรือ เป็นธุรกิจขายสินค้าตามแคตตาล็อก ธุรกิจลูกโซ่ หรืออะไรต่อมิอะไร ก็สุดแล้วแต่จินตนาการอันหลากหลายจะพาไป




ธุรกิจเครือข่ายคือ การให้ คนที่ใช้สินค้า ประจำอยู่แล้ว มาเป็นผู้โฆษณาเอง ซึ่ง ปกติ ธุรกิจต่างๆจะโฆษณาผ่านทางสื่อ อิเลกโทรนิกส์ ต่างๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์


และธุรกิจเครือข่ายแบบนี้ ก็ผู้แนะนำก็จะเป็นผู้นำสินค้าไปส่งเองเลย ซึ่ง ลดต้นทุนต่างๆ ซึ่งเกิดจากการขนส่ง แบบธุรกิจอื่นๆ ซึ่งต้องโฆษณาทางสื่อ และ เสียค่าขนส่ง ซึ่งบริษัทเหล่านั้น ก็จะ เอาเงินที่ ไม่ได้ไปใช้เกี่ยวกับการโฆษณา และ การขนส่งมา จ่ายปันรายได้ให้แก่ นักธุรกิจเหล่านั้น


ประชาชนที่ไหนๆก็มาซื้อสินค้าอยู่แล้ว  และใช้ประจำ ก็แสดงว่าชอบ ก็ช่วยเป็นสื่อในการโฆษณาเอง แทนโฆษณาทางสื่อซะเลย หรือเรียกว่า ใช้ดี บอกต่อ แล้วยังช่วยจัดส่งให้ถึงมืออีกด้วย


จึงเป็นที่มาของธุรกิจเครือข่าย และธุรกิจค้าตรง คือ ตรงจากโรงงานสินค้า สู่ ประชาชนนั่นเอง

แล้วแยกแยะอย่างไรว่าใครมีความสามารถ หรือความขยันในการทำตลาดมากกว่ากัน
 บริษัทก็จะต้องมีฐานข้อมูลของประชาชนที่เป็นหุ้นส่วนด้านการตลาดของทุกคน เพื่อบันทึกยอดการซื้อสินค้าในชื่อของคนนั้นๆ เพื่อการจ่ายค่าตอบแทนที่ถูกต้องนั้นเอง

การให้ผลตอบแทน จะให้ตามผลงานของผู้ทำ ใครสามารถทำได้มาก ผลตอบแทนก็จะมากตามไปด้วย


 ธุรกิจขายตรง ต่างกับธุรกิจลูกโซ่นะครับ


ธุรกิจเครือข่ายที่ถูกต้อง จะไม่มีค่าหัว หรือเปอร์เซ็นต์จากการชวนคนแต่อย่างใด ค่าสมัครเป็นเพียงค่าเอกสารของผู้สมัครเอง ผู้ชวนจะไม่ได้ส่วนแบ่งแต่อย่างใด บริษัทก็ไม่ได้อะไรอีก
และทั้งไม่มีการบังคับให้ซื้อสินค้าตอนสมัครว่าต้องซื้อเท่านั้นเท่านั้นเท่านี้บาท

ถ้าท่านเจอธุรกิจแนวๆนี้ นั่นคือ ธุรกิจลูกโซ่ครับ ธุรกิจขายตรงที่ถูกต้อง จะไม่เป็นแบบนี้


รายได้อันเกิดจากสินค้าที่ซื้อขายนั้นมาจากความประทับใจหรืออยากลองใช้ หากไม่ประทับใจสินค้า จะต้องสามารถเปลี่ยนหรือคืนได้ ในระยะเวลาที่กำหนด

แม้แต่ค่าสมัครเองก็ต้องสามารถคืนได้ หากสมัครแล้วเกิดเปลี่ยนใจตามเวลาที่กำหนด ผู้ทำธุรกิจต้องไม่ถูกบังคับให้กักตุนสินค้าจำนวนมากๆ
รายได้เกิดจากการลงแรงทำธุรกิจ ใครทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย แต่ธุรกิจเครือข่าย จะช่วยเหลือกันเป็นทีมงานเป็นเครือข่าย จึงเป็นธุึรกิจเครือข่ายที่ถูกต้อง
ไม่มีการหลอกลวงใคร จึงไม่ผิดกฎหมาย และอยู่ได้ยั่งยืนตลอดกาล


นอกจากนี้ คุณยังสามารถนำความรู้ และประสบการณ์ที่คุณทำได้จริง ไปสอนผู้อื่นที่สนใจทำธุรกิจเครือข่ายร่วมกันคุณโดยการสนับสนุน ส่งเสริม สั่งสอน หรือช่วยเหลือ ผลักดันให้ธุรกิจเครือข่ายของผู้อื่นมีความก้าวหน้าต่อเนื่องออกไปจนประสบความสำเร็จ
และคุณก็จะได้ส่วนแบ่งจากความพยายามในการผลักดันของคุณครั้งนี้ โดยเป็นเปอร์เซ็นต์ที่แผนการตลาดกำหนด โดยต้องไม่หักจากคนที่ถูกสอนหรือผลักดัน โดยบริษัทจ่ายแยกให้เอง


ธุรกิจเครือข่าย ยิ่งมีคุณสายงานที่ประสบความสำเร็จมากเท่าใด คุณก็จะมีรายได้มากยิ่งขึ้นเป็นสัดส่วนกับความพยายามของคุุณ

ธุรกิจเครือข่ายจึงเป็นธุรกิจแห่งการช่วยเหลือผู้อื่นให้รู้จักช่วยเหลือตัวเอง [Help people to help themselves] และเป็นธุรกิจที่ชนะทั้งคู่ นั่นคือ คุณต้องช่วยสนับสนุนให้ผู้อื่นประสบความสำเร็จ คุณจึงจะประสบความสำเร็จร่วมกัน 


ธุรกิจเครือข่ายดีอย่างไร ? 



1.ไม่ต้องหาทำเลดี เปิดหน้าร้าน เพราะธุรกิจเครือข่ายไม่ต้องใช้หน้าร้าน ทำให้ลดปัญหาเรื่อง ทุนจม สินค้าชำรุด สินค้าขายไม่ออก ไม่ต้องกังวลสินค้าหมดอายุ สินค้าตกรุ่น สินค้าส่งคืนจากลูกค้า




2.ไม่ต้องนั่งเฝ้าร้าน สามารถใช้เวลาไปในทำกิจกรรมอื่นได้อย่างอิสระ ไม่ต้องมีค่าโสหุ้ย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน ค่าอุปกรณ์สำนักงาน หรือ อื่นๆอีกมากมาย




3.ไม่ต้องปวดหัวเกี่ยวกับเรื่องบริหารงานลูกจ้างภายในร้าน เพราะ ไม่ต้องใช้ลูกน้องใน ธุรกิจเครือข่าย


4.ไม่ต้องกลัวว่าไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจ ทำให้ลดปัญหา ในการคิดว่า ถ้าทำไม่รอดจะทำขาดทุนย่อยยับ ล่มจม ความเสี่ยงของธุรกิจเครือข่ายจึงต่ำจากธุรกิจทั่วไปอย่างสิ้นเชิง


5.ที่สำคัญที่สุดคือ ร้านค้าแบบเครือข่ายที่คุณเป็นหุ้นส่วนนี้ เปิดทำการตลอดไป ไม่มีปิด แม้ว่าคุณจะเจ็บจะป่วย จะไปท่องเที่ยว เกษียณแล้ว ธุรกิจเครือข่าย ของคุณจะอยู่ต่อไป ทำร้ายได้ให้คุณอย่างต่อเนื่องตามระบบที่ถูกกำหนดไว้ ตามค่าตอบแทนที่ถูกตั้งไว้ หลายคนทำธุรกิจเครือข่าย สามารถทำให้เกษียนได้ก่อนอายุ 60 ปี หรือแม้แต่ว่าคุณไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว สิทธิประโยชน์ต่างๆ ในชื่อของคุณ คุณยังสามารถตกทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลานของคุณตามกฎหมายมรดก อีกด้วย ลูกหลานของคุณก็สามารถรับ ธุรกิจเครือข่ายที่ไม่ต้องนั่งเฝ้า และ ไม่ต้องเสี่ยง นี้ ต่อๆไป


บทความต่อไป ผมจะมาเสนอ ธุรกิจเครือข่าย ที่ดีที่สุด ? บางคนจะถามว่า ธุรกิจนี้ ดีอย่างไร มีเหตุผลจริง ไหม ดีกว่าธุรกิจเครือข่ายเจ้าอื่นอย่างไร ? บทความต่อไปเจอกันครับ


การทำ ธุรกิจส่วนตัว ดีไหม ? ธุรกิจส่วนตัวควรทำหรือไม่ ? คุณอยากเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวไหม ?



มากันเรื่อง ธุรกิจส่วนตัว หรือ ตัว S = Self Employe หรือการทำกิจการส่วนตัว อย่างเช่น ทำร้านวัสดุก่อสร้าง ทำร้านขายของชำ ร้านค้าต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่ง การทำร้านค้า จะต้องมีการลงทุนสูง และมีความเสี่ยงเสมอ ถ้าเป็นร้านค้าใหญ่ๆ ก็จะต้องมี ลูกจ้าง ซึ่ง เสียเงินในการจ้างลูกจ้าง และมีปัญหาต่างๆ ตามมา และถ้าขายของไม่ได้กำไีร หรือขาดทุน ก็จะมีปัญหาเ้ครียดขึ้นมา
และการทำธุรกิจส่วนตัว ก็จะมีการลงทุนสูง อาจทำให้ต้องกู้หนี้ยืมสินได้ ซึ่งหนี้ก็ทำให้เครียดเช่นกัน
และการทำธุรกิจส่วนตัว บางทีก็จะต้องมีการสต็อกสินค้า ซึ่งต้องใช้เงินลงทุน ไปสต็อกสินค้า

ถึงธุรกิจส่วนตัวจะเป็นธุรกิจที่สร้างเงินได้ แต่ธุรกิจส่วนตัวก็สามารถทำให้สูญเงินได้เช่นกัน

เพราะมีปัญหาต่างๆ คือ ต้องลงทุนมาก ต้องมีสำนักงาน ต้องมีลูกจ้าง ต้องสต๊อกสินค้า

คุณคิดยังไง เกี่ยวกับ ธุรกิจส่วนตัว ? คุณอยากจะทำมันไหม ? 


ขอบคุณที่อ่านบทความของผมครับ แล้วติดตามกันต่อไปนะครับ

การเป็น ลูกจ้างดีไหม ? คุณอยากเป็นลูกจ้างไหม ? ทำงานอย่างไร ?


ลูกจ้าง ก็ คือ ตัว E = Employee ที่ผมเคยกล่าวไปซึ่งคนก็รู้กันอยู่ทั่วๆไปว่า การเป็นลูกจ้าง ก็คือ ทำงานให้เจ้านาย แล้วก็กินเงินเดือน นั่นเอง ซึ่ง รายได้ก็ ได้เป็นเดือน และ มีตั้งแต่ขั้นต่ำ จนถึงขั้นสูง เรียกว่าทำงานจนหัวหงอก กันเลยละ 
มาดูเรื่องความมั่นคง กัน ลูกจ้าง ถ้าทำงานไม่ได้ประสิทธิืภาพตามเจ้านายต้องการ หรือ ทำงานไม่ดี ก็มีสิิทธิที่จะถูกไล่ออกได้อย่างง่ายดาย หรือถ้าคุณ อายุมากแล้ว ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เขาก็จะไล่คุณออก แล้วรับพนักงานใหม่เข้ามา ซึ่งเป็น รุ่นใหม่ซึ่งอายุน้อยๆ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ การเป็นลูกจ้าง จึงไม่ัมั่นคง


และการทำงานเป็นลูกจ้าง เมื่อทำไม่ได้ตามเป้าหมายที่เจ้านายสั่ง ก็จะเกิดความเครียดตามมา




ลองดูนะครับ งานเหล่านี้คุณ ทำอยู่หรือ ไม่ แล้วคุณ อยากทำมันต่อไปหรือไม่ อย่างไร




ขอบคุณที่อ่านบทความของผมครับ ต่อไปเราจะมา เรื่อง ของ ธุรกิจ จากการทำ กิจการส่วนตัวหรือ ธุรกิจส่วนตัว ต่างๆ

ธุรกิจแฟรนไชน์ ดีไหม ? คุณสนใจจะเป็นเจ้าของไหม ? ทำธุรกิจแฟรนไชน์ดีอย่างไร?

บางคนสงสัยว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ คืออะไร ? ก็ตอบได้เลยครับว่า มันก็คือธุรกิจอย่างหนึ่งที่ขาย โปรดักส์ออกมา ให้ผู้คนทำกันได้ โดยใช้ทุนสูงเหมือนกันครับ ยกตัวอย่าง ธุรกิจห้าดาวหรือไก่ย่างห้าด้าวนั่นแหละครับ และ ก็พวก เซเว่นอีเลฟเว่น และอื่นๆอีกมากมายที่ขายแฟรนไชส์กันมาไม่ว่าจะเป็นก๋็วยเตี๋ยวหรืออื่นๆ นั่นก็คือ ธุรกิจแฟรนไชส์ ครับ

 ธุรกิจแฟรนไชส์ 7 ELEVEN คุณสนใจจะเป็นเจ้าของไหมครับ ?? ผมยกตัวอย่างขึ้นมานะครับ




ค่าธรรมเนียมต่างๆ และเงินที่ต้องใช้ในการเป็นเจ้าของกิจการ 7-ELEVEN 1 แห่ง





เห็นได้ว่า มีการลงทุนที่สูงมาก และมีสัญญาการซื้อขาย นานพอสมควรเลยทีเดียว คนอย่างผมก็คงไม่มีโอกาสไปลงทุนถึงขนาดนั้น และมันก็มีความเสี่ยงสูง ถ้าทำเลที่ตั้ง ไม่ดี คนน้อย ก็ไม่ได้กำไรเท่าที่ควรอีก


ยังไงขอบคุณที่อ่านบทความนี้นะครับ ลองดูว่า อาชีพนี้เหมาะกับคุณหรือไหม มีการลงทุนสูง อื่นๆ ต่อไปผมจะมา พูดเกี่ยวกับ การเป็นลูกจ้างครับ หรือตัว E ที่เราว่ากันมานั่นเอง

ขอบคุณที่อ่านบทความครับ

ทำไมต้อง ธุรกิจเครือข่าย ? งานประจำ,ธุรกิจส่วนตัว ดีอยู่แล้ว ไม่ใช่หรือ ? ทำไมต้องทำธุรกิจเครือข่าย ? ธุรกิจเครือข่ายดีตรงไหน ?


หลายๆคนยังสงสัยว่า ที่เขาทำธุรกิจเครือข่ายกันเนี่ย เพราะอะไร งานประจำเงินดีๆ มั่นคงดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ? จะมาทำธุรกิจเครือข่ายทำไม เหตุผลเพราะอะไร เรามาลองดูกันครับ 

งานประจำ ไม่สามารถทำให้รวยได้ มีแต่หนี้ ถ้าต้องการความสำเร็จ ต้องเป็นเจ้าของกิจการเท่านั้น  

โรเบิร์ต ที คิโยซากิ กล่าวไว้ ใน หนังสือ Rich Dad Poor Dad หรือ พ่อรวยสอนลูก และอีกหลายเล่มมากมาย 

คราวนี้หลายคนคงสงสัยว่าอ่าว ทำไมต้องเป็นเจ้าของกิจการล่ะ เราก็มาดูเรื่อง ทฤษฎีเงินสี่ด้านกันครับ 

เงินสี่ด้าน งานสี่ประเภท จากหนังสือ ของ โรเบิร์ต ที คิโยซากิ






หลายคนก็งง ว่า ไอเจ้า 4 ด้านนี่ ประกอบด้วยอะไรบ้าง  ประกอบด้วย E S B I นะครับ แบ่งเป็นสองด้าน คือ ด้านซ้าย E S ด้านขวา B I


E = Employee = ลูกจ้าง = ก็คือ รับราชการ,รัฐวิสาหกิจ,คนงาน,ลูกจ้างอื่นๆ 
[ไม่รวย หยุดไม่ได้]

S = Self Employe = กิจการส่วนตัว = ทำร้านค้า,รับเหมา,ทำบัญชี,เกษตรกร,และอื่นๆ 

[ถึงรวย ก็หยุดไม่ได้อยู่ดี]


B = Business owner = เจ้าของธุรกิจ = เจ้าของธุรกิจแบบเครือข่าย,ทำแฟรนไชน์,นักธุรกิจเครือข่าย 
[รวยแล้ว หยุดได้]


I = Invester = นักลุงทุน = พันธบัตร,เงินฝาก  = รวยมาก 
[มูลค่าเป็นสิบล้านร้อยล้าน]


นี่คืองานสี่ประเภท แต่ใครๆก็คือใครๆก็อยากได้ตัว B และ I ใช่มั้ยละครับ เพราะว่ามัน "รวย" นั่นเอง ฮ่าๆ



ต่อไป ผมจะมาอัพบทความ เกี่ยวกับ ธุรกิจ แฟรนไชน์ ครับ



ขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านครับ ขอบคุณครับ ....